K2 Black Panther
รถถังหลัก K2 Black Panther พัฒนาขึ้นมาจากโครงการ XK2
รถถังยุคก้าวหน้านี้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้เทคโนโลยีภายในประเทศเท่านั้น
การพัฒนาเริ่มขึ้นในปี 1995 รถต้นแบบคันแรกถูกเปิดเผยในปี 2007
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมารถถังคันก็ได้รับการทดสอบและประเมินผล สัญญาการผลิตรถถังชุดแรกจำนวน
100 คัน ได้มีการลงนามในปี 2014 และมีการส่งมอบในปี
2016 รวมถึงสัญญาการผลิตเพิ่ม
กองทัพบกเกาหลีใต้มีความต้องการรถถังใหม่นี้จำนวน 300 คัน
เพื่อมาแทนที่รถถังหลัก K1 ที่มีอายุการใช้งานมานาน
ปัจจุบันรถถังหลัก K2 เป็นหนึ่งในรถถังหลักที่ทันสมัยที่สุดในโลก
เหนือกว่าทั้งของเกาหลีเหนือและจีน นอกจากนี้มันยังเป็นรถถังหลักที่แพงที่สุดในโลก
แซงหน้ารถถังหลัก Type 90 ของญี่ปุ่น
รถถังคันนี้ติดตั้งชุดเกราะแบบแยกส่วนที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชนิดและชุดเกราะป้องกันปฏิกิริยาแรงระเบิด
(ERA)
มีการอ้างว่าเกราะด้านหน้าสามารถทนต่อกระสุนที่ยิงจากรถถังด้วยปืนขนาด
120 มิลลิเมตร/L55 มีการติดตั้งระบบป้องกัน
NBC และระบบการตอบโต้ การป้องกันของ K2 มีความคล้ายคลึงกับ M1A2 Abrams แต่มีน้ำหนักเบากว่า
มีการอ้างว่า K2 Black Panther นั้นดีกว่า M1A2
Abrams
Black
Panther ติดตั้งปืน Rheinmetall 120 มิลลิเมตร/L55
ผลิตขึ้นในประเทศภายใต้ใบอนุญาตการผลิต มาพร้อมกับการบรรจุกระสุนแบบอัตโนมัติ
รถถังหลักคันนี้มีอัตราการยิงสูงสุด 15 นัดต่อนาที ว่ากันว่าระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติของมันคล้ายกับที่ใช้ในรถถังหลัก
Leclerc ของฝรั่งเศส กระสุน 16 นัดถูกเก็บไว้ในระบบบรรจุอัตโนมัติ
และอีก 24 นัดถูกเก็บไว้ภายในตัวรถ
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบควบคุมการยิงขั้นสูง ที่สามารถติดตามและล็อคเป้าหมายได้ไม่เพียงแต่รถถังเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงเฮลิคอปเตอร์บินต่ำ มีระยะยิงหวังผลสูงสุด 10
กิโลเมตร นอกจากนี้ระบบควบคุมการยิงนี้ยังสามารถตรวจจับ ติดตาม
และทำการยิงได้โดยอัตโนมัติ ต่อเป้าหมายที่มองเห็นชัดเจนได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากมนุษย์
ปืน 120 มิลลิเมตรนี้ สามารถยิงอาวุธแบบต่างๆได้
ใช้ได้กับกระสุนรถถังมาตรฐานนาโตได้ทุกแบบ นอกจากนี้ยังสามารถยิงกระสุน KSTAM
(Korean Top-Attack Monition) แบบใหม่ เป็นกระสุนอัจฉริยะแบบยิงแล้วลืม
อย่าสับสนกับขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านรถถัง KSTAM มีระบบนำทางในตัวมันเอง
ที่ได้รับความช่วยเหลือจากครีบหางทั้งสี่ ในขั้นตอนสุดท้ายร่มชูชีพจะถูกนำมาใช้เพื่อชะลอและพุ่งเข้าหาเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
เป็นหลักการเดียวกับปืนครกต่อต้านรถถัง นอกจากนี้รถถัง K2 ยังสามารถยิง
KSTAM ได้จากหลังกำบัง KSTAM มีระยะยิงหวังผลสูงสุด
8 กิโลเมตร
อาวุธรองประกอบด้วยปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มิลลิเมตร
และปืนกลหนัก K6 ขนาด 12.7 มิลลิเมตร
ติดตั้งอยู่บนป้อมปืนหลัก ปืนทั้งสองกระบอกนี้มีการบรรจุกระสุนจำนวนมาก (12,000
นัดสำหรับปืน 7.62 มิลลิเมตร และ 3,200
นัดสำหรับปืน 12.7 มิลลิเมตร)
รถถังหลักคันนี้มีพลประจำรถ 3 นาย ประกอบด้วย
ผู้บังคับการรถ พลปืน และพลขับ
คุณสมบัติอื่นๆของรถถังหลัก K2 ประกอบด้วยระบบจัดการการรบแบบดิจิทัลและระบบนำทางเพื่อการประสานงานได้อย่างรวดเร็ว
รถถังหลัก K2 สามารถรายงานสถานการณ์การสู่รบได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งจะช่วยเพิ่มความตระหนักในสถานการณ์ของกองกำลังฝ่ายเดียวกัน
รถถังหลัก K2 ของเกาหลีใต้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์
MTU MB-883 Ka500 ที่ได้รับสิทธิบัตรการผลิตภายในประเทศ
ที่ให้กำลัง 1,500 แรงม้า นอกจากนี้ยังมีชุดขับเคลื่อนกังหันแก๊ส
ที่ให้กำลัง 400 แรงม้า ที่จะทำงานทันทีที่เครื่องยนต์หลักปิดการทำงาน
มีระบบกันสะเทือนแบบ hydropneumatic มีการอ้างว่าระบบช่วงล่างนี้สามารถบำรุงรักษาได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับระบบเดิม
รถถังหลัก K2 Black Panther สามารถติดตั้งชุดลุยน้ำลึกได้
ช่วยให้รถข้ามแม่น้ำและสิ่งขีดขวางทางน้ำอื่นๆ ได้ลึกถึง 4.2 เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้รถถังหลัก K1 และ K1A1 ไม่มีคุณลักษณะนี้
ราคาของรถถังหลัก K2 Black Panther อยู่ที่ 8.5
ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีการเสนอขายส่งออกให้แก่ต่างประเทศด้วย
ตุรกีได้เจรจานำเข้าหรือการผลิตภายใต้ใบอนุญาตของระบบย่อย K2 Black Panther
เรียบร้อยแล้ว โดยรถถังหลัก Altay ใหม่ของตุรกีจะใช้เทคโนโลยีบ่างอย่างของ
K2 Black Panther
ข้อมูลจำเพาะ
บทบาท : รถถังประจัญบานหลัก
สัญชาติ : เกาหลีใต้
ผู้ออกแบบ : Agency for
Defense Development (ADD) (สำนักพัฒนากลาโหม)
ผู้ผลิต : Hyundai Rotem
ผู้ใช้งานหลัก
: เกาหลีใต้
เริ่มเข้าประจำการ : 2016
พลประจำรถ : 3 นาย
ขนาดและน้ำหนัก
น้ำหนัก : 55 ตัน
ความยาว (เมื่อกระบอกปืนชี้ไปข้างหน้า)
: 10 เมตร
ความยาว (ตัวรถ)
: 7.5 เมตร
ความกว้าง : 3.6 เมตร
ความสูง : 2.5 เมตร
อาวุธยุทภัณฑ์
ปืนใหญ่ : 120 มิลลิเมตร/L55
ปืนกล : 1 x 12.7 มิลลิเมตร , 1 x 7.62 มิลลิเมตร
องศาการเงยกระบอกปืน
: ไม่ทราบ
องศาการหมุนกระบอกปืน
: 360 องศา
โหลดกระสุน
ปืนใหญ่ : 40 นัด
ปืนกล : 12.7 มิลลิเมตร 3,200 นัด ,
7.62 มิลลิเมตร 12,000 นัด
เครื่องยนต์และประสิทธิภาพการทำงาน
เครื่องยนต์
: MTU MB-883 Ka500 Diesel
ขุมพลัง : 1,500 แรงม้า
ความเร็วสูงสุด
: 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พิสัยปฏิบัติการ : 400-430 กิโลเมตร
ความคล่องตัว
ลาดชัน : 60%
ลาดเอียง : 40%
ข้ามสิ่งกีดขวาง
: 1.3 เมตร
ข้ามคูกว้าง
: ~2.8 เมตร
ลุยน้ำลึก : 1.2 เมตร
ลุยน้ำลึก (มีการเตรียมการ)
: 4.2 เมตร
อ้างอิง
Photo
wikimedia.org, ptcdn.info, demaclub.tistory.com, milidom.net,
asianmilitaryreview.com










ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น