MEADS


TLVS​ MEADS


   Medium Extended Air Defense System หรือ MEADS ได้รับการพัฒนารวมกันระหว่างประเทศเยอรมนี อิตาลี และสหรัฐอเมริกา ระบบป้องกันภัยทางอากาศนี้มีจุดประสงค์เพื่อมาแทนที่ระบบ Patriot ที่ใช้ในเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา รวมถึงระบบ Nike Hercules ที่ล้าสมัยของอิตาลีด้วย การพัฒนาเริ่มขึ้นในปี 2004 โดยอิตาลีและสหรัฐอเมริกา ต่อมาเยอรมนีก็ได้เข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการในปี 2005 สหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะรับ MEADS จำนวน 48 ระบบ พร้อมอาวุธ​ปล่อย​จำนวน 1,528 ลูก แต่ในปี 2011 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) ได้ยกเลิกการจัดหา แต่ยังคงให้การสนับสนุนการพัฒนาต่อ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ MEADS ประสบความสำเร็จในการทดสอบในปี 2012 และเริ่มทยอยเปลี่ยนกับระบบเก่าทั้งในเยอรมนีและอิตาลี สิ่งที่น่าสนใจคือระบบ MEADS ถูกใช้โดยกองทัพอากาศอิตาลี แต่กองทัพบกอิตาลีเลือกที่จะใช้งานระบบ SAMP/T

   บทบาทหลักของ MEADS คือการปกป้องกองกำลังภาคพื้น และเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้ต่อกรกับเครื่องบินรบ เฮลิคอปเตอร์ อากาศยานไร้คนขับ (UAV) รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีพิสัยใกล้ทางยุทธวิถี (ระยะยิงไกลสุดไม่เกิน 1,000 กิโลเมตร) และอาวุธปล่อยนำวิถีร่อน​ 

   ระบบ MEADS ใช้อาวุธปล่อยนำวิถีแบบ MIM-104F แบบเดียวกับที่ใช้ในระบบ Patriot PAC-3 อาวุธปล่อยนำวิถีนี้มีความคล่องตัวสูงทำลายเป้าหมายด้วยการพุ่งเข้าชน และยังมีหัวรบขนาดเล็กแบบ HE-FRAG เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำลายเป้าหมาย อาวุธปล่อยนำวิถี MIM-104F เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นฐานของระบบนี้ อย่างไรก็ตามระบบ MEADS ของเยอรมนี​นั้นได้มีการเสริมด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีพิสัยใกล้แบบ IRIS-T SLS เป็นอาวุธรอง

   อาวุธปล่อยนำวิถี MIM-104F พื้นฐานมีระยะยิงประมาณ 40 กิโลเมตร และมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ที่ระดับความสูงไม่เกิน 20,000 เมตร ส่วนอาวุธปล่อยนำวิถี IRIS-T SLS มีระยะยิงประมาณ 35 กิโลเมตร อาวุธปล่อยนำวิถีทั้งสองแบบจะถูกเก็บไว้ในกล่องภาชนะ​บรรจุ​

   รถฐานยิงแต่ละคันของ MEADS จะมีอาวุธปล่อยนำวิถีติดตั้ง 8 ลูก มันแตกต่างจากฐานยิงของ Patriot ที่มีมุมการยิงที่ตายตัว แต่ฐานยิงของ MEADS สามารถปรับมุมยิงได้ 70 องศา และสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้แบบ 360 องศา

   ฐานยิงของ MEADS ใช้ระบบ Palletized Load Handling ดังนั้นชุดอาวุธทั้ง 8 ลูกจึงสามารถทำการโหลดได้อย่างรวดเร็ว


   MAEDS เป็นระบบเคลื่อนที่ แม้ว่ามันจะไม่สามารถทำการยิงได้ในระหว่างเคลื่อนที่ แต่องค์ประกอบทั้งหมดของระบบสามารถทำการโยกย้ายได้อย่างรวดเร็ว ในหนึ่งระบบมียานยนต์สนับสนุนทีเกี่ยวข้องที่สามารถย้ายตำแหน่งได้หลายครั้งต่อวัน ระบบของ MEADS จะใช้บุคลากรและอุปกรณ์น้อยกว่าระบบ Patriot หนึ่งระบบประกอบด้วย เรดาร์เฝ้าระวัง, เรดาร์ควบคุมการยิงอเนกประสงค์, ระบบจัดการการรบ, รถฐานยิง และรถบรรจุ ที่มีอาวุธปล่อยนำวิถีสำรองสำหรับรถฐานยิง

   เรดาร์ของ MEADS สามารถตรวจหาเป้าหมายได้ 360 องศา ในขณะที่เรดาร์ของ Patriot ถูกจำกัดไว้ที่ 120 องศา นอกจากนี้รถฐานยิง เรดาร์ และระบบจัดการการรบ สามารถอยู่ห่างจากกันได้ คุณลักษณะนี้ช่วยเพิ่มความอยู่รอดโดยรวมของระบบ

   เรดาร์ควบคุมการยิงอเนกประสงค์แบบ X-band solid-state phased array radar พร้อมกับ Active Electronically Scanned Array (AESA) ให้ความแม่นยำในการติดตามเป้าหมาย การแยกแยะ และความสามารถในการจำแนกประเภท เรดาร์นี้มีความสามารถในการระบุฝ่าย​ เรดาร์เฝ้าระวัง ให้การตรวจจับระยะไกลต่อวัตถุตัดขวางเรดาร์ต่ำ เรดาร์นี้ทำงานที่ความถี่ต่ำสำหรับตรวจจับพวกอาวุธ​ปล่อย​นำวิิถี​ต่อต้านเรดาร์ในปัจจุบัน

   ระบบจัดการการรบประกอบด้วยการสั่งการและการควบคุมโดยรวมของ MEADS มีการจัดการการรบของหน่วยยิง มันจะคำนวณเกี่ยวกับเป้าหมายและส่งคำสั่งยิงไปยังรถฐานยิง รถฐานยิงอย่างน้อยสองคันสามารถทำการยิงพร้อมกันได้ เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่หลากหลายหรือการสกัดกันอาวุธจำนวนมาก

   ระบบป้องกันภัยทางอากาศนี้มีสถาปัตยกรรมแบบเปิด ซึ่งช่วยให้สามารถนำเรดาร์และรถฐานยิง รวมเข้ากับเครือข่ายป้องกันภัยทางอากาศและอาวุธปล่อยนำวิถีเดียวได้ นอกจากนี้ระบบ MEADS ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบป้องกันภัยทางอากาศและอาวุธปล่อยนำวิถีของชาตินาโต สามารถประสานงานได้ด้วยโครงข่าย​คำสั่งและการควบคุมของนาโต ซึ่งจะช่วยให้สามารถรวมการป้องกันภัยทางอากาศและระบบต่อต้านอาวุธปล่อยของประเทศต่างๆเข้าไว้ในเครือข่ายเดียวกันได้


   ชุดระบบ MEADS ของเยอรมนี​ ติดตั้งอยู่บนพื้นฐานของรถบรรทุกทหารแบบ MAN SX45 ยานยนต์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความคล่องตัวสูงและสามารถเดินทางข้าม​ผ่านภูมิประเทศที่ยากลำบากได้

   ชุดระบบของอิตาลี ติดตั้งอยู่บนพื้นฐานของรถบรรทุกแบบ ARIS AGC ยานยนต์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาเพื่อการขนส่งทางอากาศ ออกแบบมาให้มีความเหมาะสมกับช่องเก็บสัมภาระภายในของเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130J Super Hercules ยานยนต์เหล่านี้สามารถขับเข้าและออกจากเครื่องบิน C-130J ได้โดยไม่ต้องมีการเตรียมการใดๆเพิ่ม

   ชุดระบบของสหรัฐฯ ติดตั้งอยู่บนพื้นฐานของรถบรรทุกทหารแบบ M1083 series ระบบขับเคลื่อน 6x6 สหรัฐฯวางแผนที่จะรับ MEADS จำนวน 48 ระบบ กับอาวุธ​ปล่อย​อีก 1,528 ลูก แต่ในปี 2011 Pentagon ก็ได้ทำการยกเลิกการจัดซื้อ

   ระบบ MEADS ทั้งหมดสามารถขนส่งทางอากาศได้โดยเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีแบบ A400M, C-17 Globemaster III หรือ C-5 Galaxy ระบบของอิตาลีสามารถขนส่งทางอากาศได้โดยเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีแบบ C-130J Super Hercules


ข้อมูลจำเพาะ

บทบาท : ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลาง
สัญชาติ : เยอรมนี-อิตาลี-สหรัฐอเมริกา
ผู้ใช้งานหลัก : เยอรมนีและอิตาลี
เริ่มเข้าประจำการ : 2012
พลประจำรถฐานยิง : ไม่ทราบ

อาวุธปล่อย

จำนวนอาวุธปล่อย : 8 ลูก
ความยาว : 5.21 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง : ไม่ทราบ
น้ำหนักอาวุธ : 312 กิโลกรัม
น้ำหนักหัวรบ : ไม่ทราบ
ประเภทหัวรบ : HE-FRAG
ระยะยิงไกลสุด : ~40 กิโลเมตร
เพดานยิงสูงสุด : ~20,000 เมตร







อ้างอิง


Photo

lockheedmartin.com, wikimedia.org, dmitryshulgin.com

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม