9K720 Iskander
9K720 Iskander
Iskander ถือเป็นความพยายามครั้งที่สองของรัสเซียในการแทนที่ขีปนาวุธสกั๊ด ความพยายามครั้งแรกคือ OTR-23 Oka ที่ถูกปลดประจำการไปด้วยเหตุผลเรื่องสนธิสัญญา INF (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty) งานออกแบบของ Iskander เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 1988 ในขั้นต้นถูกกำกับโดยนาย Sergey Nepobedimy นักออกแบบอาวุธจรวดของ KBM และไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 มันประสบความสำเร็จในการยิงครั้งแรกในปี 1996 ในเดือนกันยายน 2004 ในการประชุมเจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสรายงานต่อประธานาธิบดี Vladimir Putin เกี่ยวกับการร่างงบประมาณการป้องกันประเทศสำหรับปี 2005 รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย นาย Sergei Ivanov กล่าวถึงความสำเร็จของการทดสอบระบบอาวุธทางยุทธวิธีใหม่ที่เรียกว่า Iskander โดยเขาได้กล่าวว่าระบบจะทำการผลิตเชิงปริมาณได้ในปี 2005 และในปลายปีนั้นรัสเซียจะสามารถจัดตั้งกองพันได้อีกด้วย ในเดือนมีนาคม 2005 แหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซียบอกกับ Interfax-AVN ว่าการพัฒนาอาวุธใหม่นี้จะมีระยะยิงทำการ 500-600 กิโลเมตร ในปี 2006 ได้มีการเปิดสายการผลิตและเข้าประจำการระบบอาวุธทางยุทธวิธี Iskander-M โดยกองทัพรัสเซีย ในเดือนพฤศจิกายน 2016 กองทัพรัสเซียได้ประกาศว่าระบบ Iskander-M นั้นมีความทันสมัยแล้ว และมีรายงานว่าหลายประเทศแสดงความสนใจในการสั่งซื้อรุ่นส่งออกของ Iskander ฝั่งสหรัฐอเมริกาได้แย้งว่าอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนรุ่น SSC-8 R-500 Iskander-K นั้นกำลังฝ่าฝืนสนธิสัญญา INF เนื่องด้วยมันมีระยะยิงทำการประมาณที่ไกลเกินกว่า 500 กิโลเมตร
Iskander นั้นมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Oka รุ่นก่อนหน้า ระบบ Iskander-M มีการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีจรวดเชื้อเพลิงแข็งขั้นเดียวสองลูกคือรุ่น 9M723K1 แต่ละลูกถูกควบคุมตลอดเส้นทางการบินทั้งหมดและติดตั้งหัวรบที่แยกออกไม่ได้ อาวุธปล่อยแต่ละลูกในรถฐานยิงสามารถกำหนดเป้าหมายได้อย่างอิสระในเวลาไม่กี่วินาที ด้วยความคล่องตัวของรถฐานยิงทำให้ยากที่ฝ่ายตรงข้ามจะป้องกันไม่ให้มันปล่อยอาวุธได้ ตำแหน่งเป้าหมายไม่เพียงแต่สามารถระบุผ่านดาวเทียมและเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังอยู่ในศูนย์ข่าวกรองทั่วไปโดยผู้ตรวจการณ์หน้า หรือจากภาพถ่ายทางอากาศที่สแกนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มันสามารถกำหนดเป้าหมายใหม่ได้อีกครั้งในระหว่างทำการบินในกรณีที่เป้าหมายเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิม คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของ Iskander-M คือการนำทางผ่านกล้อง ซึ่งสามารถควบคุมได้โดยการส่งสัญญาณวิทยุที่เข้ารหัสจาก AWACS หรือ UAV ระบบนำทางด้วยกล้องทำให้มันสามารถควบคุมได้ด้วยตัวมันเอง โดยคอมพิวเตอร์ออนบอร์ดของตัวอาวุธได้รับภาพของเป้าหมายจากนั้นทำการล็อคเป้าหมายผ่านกล้องและพุ่งลงไปยังเป้าหมายที่ความเร็วเหนือเสียง
หลักการทำงานของ thrust vector control (TVC) ดำเนินการคล้ายกับขีปนาวุธทางยุทธวิธีแบบ V-2 และ Scud series ตามข่าวลือบางอย่างอาวุธนี้เดินทางในลักษณะกึ่งขีปนาวิถี ดำเนินการหลบหลีกและปล่อยเป้าลวงในขั้นตอนสุดท้ายของการบินเพื่อเจาะระบบป้องกันภัยของฝ่ายตรงข้าม ขีปนาวุธนี้ไม่เคยออกนอกชั้นบรรยากาศ และถูกควบคุมทั้งหมดในระหว่างทำการบิน มันใช้ครีบขนาดเล็กเพื่อลดสัญลักษณ์บนเรดาร์
Iskander-M เดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงที่ความเร็ว 2,100-2,600 เมตรต่อวินาที (Mach 6-7) และระดับความสูง 50,000 เมตร มีน้ำหนัก 4,615 กิโลกรัม บรรทุกหัวรบน้ำหนัก 710-800 กิโลกรัม มีระยะยิงทำการ 500 กิโลเมตร และมีค่าความคลาดเคลื่อนแบบวงกลม (CEP) ประมาณ 5-7 เมตร (เมื่อติดตั้งหัวแบบ Optical homing ในโหมดการทำงานอัตโนมัติจะมีค่า CEP ประมาณ 30-70 เมตร) มีข่าวลือว่าในระหว่างการบินมันสามารถเคลื่อนที่ที่ระดับความสูงและวิถีที่แตกต่างกัน และสามารถหันเลี้ยวได้สูงถึง 20-30 G เพื่อหลบหลีกอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านขีปนาวุธฝ่ายตรงข้าม ข่าวลือนี้ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างมาก นักวิจารณ์หลายคนแย้งว่าโครงสร้างอากาศพลศาสตร์ของ Iskander และระดับความสูงของการร่อนจะไม่อนุญาตให้มันทำการหลบหลีกที่ระดับจีสูงได้เนื่องจากขาดแรงยกตัว
Iskander เป็นระบบอาวุธทางยุทธวิธีที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในความขัดแย้งระดับยุทธบริเวณ มันมีจุดประสงค์เพื่อที่จะใช้หัวรบตามแบบหรือแบบเทอร์โมนิวเคลียร์ สำหรับการปะทะกับเป้าหมายขนาดเล็กและเป้าหมายเป็นพื้นที่ (ทั้งที่เคลื่อนที่และอยู่กับที่) เช่น อาวุธยิงของฝ่ายตรงข้าม การป้องกันภัยทางอากาศและขีปนาวุธ ศูนย์สื่อสารและสั่งการ กองกำลังในพื้นที่ และอื่นๆ ระบบสามารถทำลายทั้งเป้าหมายและหน่วยทหารที่ปฏิบัติการอยู่เพื่อลดความสามารถของฝ่ายตรงข้ามในการเข้าร่วมสงคราม
ในปี 2007 อาวุธปล่อยนำวิถีใหม่สำหรับระบบ (และชุดปล่อย) ได้ทดสอบการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนแบบ R-500 ที่มาพร้อมกับการติดตั้งโปรแกรมประยุกต์ซึ่งมีระยะยิงทำการตั้งแต่ 2,000 กิโลเมตขึ้นไป ปัจจุบันระบบ "Iskander-M" ที่ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนและขีปนาวุธถูกส่งมอบให้กับกองทัพแล้ว ในปี 2013 กองพันอาวุธปล่อยกองทัพบกได้รับอาวุธปล่อยนำวิถีที่ติดตั้งระบบควบคุมแบบใหม่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2018 อาวุธปล่อยนำวิถีที่ซับซ้อนของ Iskander สามารถโจมตีเป้าหมายทางทะเลที่อยู่กับที่ได้
สามารถปล่อยอาวุธได้ภายใน 16 นาทีหลังจากการเดินทาง หรือ 4 นาทีจากความพร้อมสูงสุด สามารถปล่อยอาวุธลูกที่สองได้ภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีหลังจากการปล่อยอาวุธลูกแรก รถฐานยิงใช้แชสซีรถแบบ MZKT-79306 ASTROLOG 8x8 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบ YaMZ-846 ที่ให้กำลัง 500 แรงม้า สามารถขนส่งทางอากาศได้โดยเครื่องบินขนส่งแบบ An-124
พลังงานสูงสุดสำหรับหัวรบนิวเคลียร์คือ 50 กิโลตัน TNT (Iskander-M)
รถขนส่งและบรรจุ 9T250-1
สายพันธุ์
Iskander-M เป็นรุ่นสำหรับใช้งานในกองทัพรัสเซีย ติดตั้งขีปนาวุธเสมือนแบบ 9M723 จำนวน 2 ลูกมีระยะยิง 415 กิโลเมตร แต่ส่วนใหญ่เชื่อกันว่ามันมีระยะยิง 500 กิโลเมตร มีความเร็วอยู่ที่ Mach 6-7 มีเพดานบินตั้งแต่ 6,000-50,000 เมตร หัวรบนิวเคลียร์มีความสามารถในการตรวจจับได้ยาก สามารถควบคุมได้ตลอดขั้นตอน ไม่ใช้เส้นทางบินแบบขีปนาวุธวิถี ทันทีหลังจากการยิงและเข้าใกล้เป้าหมายตัวอาวุธจะดำเนินการหลบหลีกอย่างเข้มข้นเพื่อเอาชนะอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านขีปนาวุธของฝ่ายตรงข้าม ตัวอาวุธจะทำการหลบหลีกอย่างต่อเนื่องในระหว่างทำการบินเช่นกัน
Iskander-K (K ย่อมาจาก Krylataya หรือ "Winged") เป็นรุ่นที่ตั้งใจจะให้ปล่อยอาวุธร่อนประเภทต่างๆ ปัจจุบันมันมีอาวุธร่อนดังต่อไปนี้
- 9M728 (SSC-7) หรือที่รู้จักกันในชื่อ R-500 มีเพดานบินสูงสุด 6,000 เมตร ซึ่งมีระยะยิงสูงสุด 500 กิโลเมตร มันมีประสิทธิภาพสูงและมีการปรับเส้นทางอัตโนมัติตามลักษณะภูมิประเทศในการบิน ได้รับการพัฒนาต่อมาจาก 3M10, 3M54/3M14 และ Kh-101/102 สามารถทำการปล่อยได้จาก Iskander-M
- 9M729 (SSC-8) เป็นอาวุธปล่อยพิสัยไกลแบบใหม่ มีรายงานว่ามันมีพื้นฐานมาจาก 3M14 (SS-N-30) Caliber-NK ที่มีระยะยิงระหว่าง 300-3,400 ไมล์ (480-5,470 กิโลเมตร) และอาจอยู่บนพื้นฐานของอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนแบบ Kh-101 ที่ปล่อยทางอากาศซึ่งมีระยะทำการมากกว่า 5,500 กิโลเมตร (3,400 ไมล์) จากข้อมูลของ RF ระยะของมันนั้นอยู่ที่ 480 กิโลเมตร และตัวยิงจรวดขับเคลื่อนด้วยตนเองที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสามารถบรรทุกอาวุธปล่อยได้ 4 ลูก 9M729 มีหัวรบที่มีประสิทธิภาพสูงและระบบควบคุมแบบใหม่เพื่อความแม่นยำที่สูงขึ้น ชิ้นส่วนและส่วนประกอบส่วนใหญ่ของ 9M728 และ 9M729 นั้นเหมือนกัน ปัจจุบันมีขีปนาวุธและอาวุธปล่อยนำวิถีร่อน 7 แบบ สำหรับใช้งานกับระบบอาวุธ Iskander ทั้งสองรุ่น
Iskander-K (K ย่อมาจาก Krylataya หรือ "Winged") เป็นรุ่นที่ตั้งใจจะให้ปล่อยอาวุธร่อนประเภทต่างๆ ปัจจุบันมันมีอาวุธร่อนดังต่อไปนี้
- 9M728 (SSC-7) หรือที่รู้จักกันในชื่อ R-500 มีเพดานบินสูงสุด 6,000 เมตร ซึ่งมีระยะยิงสูงสุด 500 กิโลเมตร มันมีประสิทธิภาพสูงและมีการปรับเส้นทางอัตโนมัติตามลักษณะภูมิประเทศในการบิน ได้รับการพัฒนาต่อมาจาก 3M10, 3M54/3M14 และ Kh-101/102 สามารถทำการปล่อยได้จาก Iskander-M
- 9M729 (SSC-8) เป็นอาวุธปล่อยพิสัยไกลแบบใหม่ มีรายงานว่ามันมีพื้นฐานมาจาก 3M14 (SS-N-30) Caliber-NK ที่มีระยะยิงระหว่าง 300-3,400 ไมล์ (480-5,470 กิโลเมตร) และอาจอยู่บนพื้นฐานของอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนแบบ Kh-101 ที่ปล่อยทางอากาศซึ่งมีระยะทำการมากกว่า 5,500 กิโลเมตร (3,400 ไมล์) จากข้อมูลของ RF ระยะของมันนั้นอยู่ที่ 480 กิโลเมตร และตัวยิงจรวดขับเคลื่อนด้วยตนเองที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสามารถบรรทุกอาวุธปล่อยได้ 4 ลูก 9M729 มีหัวรบที่มีประสิทธิภาพสูงและระบบควบคุมแบบใหม่เพื่อความแม่นยำที่สูงขึ้น ชิ้นส่วนและส่วนประกอบส่วนใหญ่ของ 9M728 และ 9M729 นั้นเหมือนกัน ปัจจุบันมีขีปนาวุธและอาวุธปล่อยนำวิถีร่อน 7 แบบ สำหรับใช้งานกับระบบอาวุธ Iskander ทั้งสองรุ่น
Iskander-K
Iskander-E นาย Sergey Chemezov ผู้อำนวยการของ Rostec กล่าวว่าอาวุธปล่อยนำวิถีที่มีความซับซ้อนอย่าง "Iskander" นั้นเป็นอาวุธที่น่าเกรงขามและร้ายแรงที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้ ระบบอาวุธนี้อยู่ในรายชื่อผลิตภัณฑ์ทางทหารที่ห้ามส่งออก "อาวุธปล่อยนำวิถี Iskander ไม่สามารถส่งออกได้" นาย Sergey Chemezov กล่าว อย่างไรก็ตามรุ่นส่งออกนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Iskander-E และผู้ใช้งานต่างประเทศรายแรกคือ อาร์เมเนียพันธมิตรรัสเซียและเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาความมั่นคงรวม (CSTO) Iskander-E มีระยะยิงสูงสุด 280 กิโลเมตร ติดตั้งระบบนำทางแบบเฉื่อย Iskander-E ยังสามารถติดตั้งหัวรบอาวุธแบบลูกปราย
ข้อมูลจำเพาะ
บทบาท : อาวุธปล่อยนำวิถีพิสัยใกล้
สัญชาติ : รัสเซีย
ผู้ผลิต
- Votkinsk Plant State Production Association (Votkinsk) – ตัวอาวุธปล่อย
- Production Association Barricades (Volgograd) – อุปกรณ์ภาคพื้นดิน
- KBM (Kolomna) – ผู้พัฒนาระบบ
เริ่มเข้าประจำการ : 2006
พลประจำรถฐานยิง : 3 นาย
อาวุธปล่อย
จำนวนอาวุธปล่อย : 2 ลูก
ความยาว : 7.3 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 0.92 เมตร
น้ำหนัก (อาวุธปล่อย) : 3,800 กิโลกรัม
น้ำหนัก (หัวรบ) : 480-700 กิโลกรัม
ประเภทหัวรบ
- หัวรบนิวเคลียร์
- หัวรบระเบิดแบบลูกปราย
- หัวรบระเบิดแบบเสริมแรงระเบิดจากเชื้อเพลิง
- หัวรบระเบิดแรงสูงแบบแยกส่วน
- หัวรบระเบิดเจาะทำลายบังเกอร์
- ระเบิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMP)
ระยะทำการ
- สูงสุด : 500 กิโลเมตร (Iskander-M, ไม่เป็นทางการ)
- ขั้นต่ำ : 50 กิโลเมตร
ค่าความคลาดเคลื่อน (CEP)
- 5-7 เมตร ติดตั้งระบบออปโตอิเล็กทรอนิกส์ DSMAC (Iskander-M)
- 1-30 เมตร 9K720
เครื่องยนต์ : จรวดเชื้อเพลิงแข็งแบบชั้นเดียว
ความเร็ว : ~2,100 เมตร/วินาที (hypersonic)
ระบบนำทาง
- ระบบนำทางแบบเฉื่อย
- Optical DSMAC (Iskander-M)
- TERCOM (Iskander-K)
อายุการใช้งาน : 10 ปี
เครื่องยนต์และประสิทธิภาพการทำงาน (รถฐานยิง)
เครื่องยนต์ : YaMZ-846 Diesel
ขุมพลัง : 500 แรงม้า
ความเร็วสูงสุด : 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พิสัยปฏิบัติการ : 1,000 กิโลเมตร
ความคล่องตัว (รถฐานยิง)
ลาดชัน : 45%
ลาดเอียง : 30%
ข้ามสิ่งกีดขวาง : ~0.6 เมตร
ข้ามคูกว้าง : 2 เมตร
ลุยน้ำลึก : 1.4 เมตร
ประเทศผู้ใช้งาน
- รัสเซีย
- อาร์เมเนีย
- แอลจีเรีย
ส่วนประกอบของระบบ
ระบบ Iskander เต็มรูปแบบประกอบด้วย
- อาวุธปล่อย
- รถฐานยิง (ใช้แชสซีของรถบรรทุก MZKT-79306 ASTROLOG 8 × 8)
- รถขนส่งและบรรจุ (ใช้แชสซีของรถบรรทุก MZKT-79306 ASTROLOG 8 × 8)
- รถบังคับการ (ใช้แชสซีของรถบรรทุกหกล้อ KAMAZ)
- รถสถานีเตรียมข้อมูล (ใช้แชสซีของรถบรรทุกหกล้อ KAMAZ)
- รถซ่อมแซมและบำรุงรักษา (ใช้แชสซีของรถบรรทุกหกล้อ KAMAZ)
- รถสนับสนุนอายุการใช้งาน (ใช้แชสซีของรถบรรทุกหกล้อ KAMAZ)
- ชุดอุปกรณ์คลังพัสดุ
- ชุดอุปกรณ์สำหรับชั้นเรียนฝึกอบรม TEL
- ชุดอุปกรณ์สำหรับชั้นเรียนฝึกอบรม CSV
- โปสเตอร์การฝึกอบรม
- การฝึกอบรมอาวุธปล่อยจำลอง
เป้าหมายที่ตั้งใจไว้
ระบบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้หัวรบตามแบบสำหรับเป้าหมายเป็นจุดและเป้าหมายเป็นพื้นที่ ได้แก่
- อาวุธยิงที่ไม่เป็นมิตร (ระบบอาวุธปล่อย, ระบบจรวดหลายลำกล้อง, ปืนใหญ่)
- อาวุธป้องกันภัยทางอากาศ, สนามบิน
- อากาศยานปีกตรึงและปีกหมุนในสนามบิน
- ศูนย์สื่อสารและบังคับการ
- กองกำลังทหารในพื้นที่
- สิ่งอำนวยความสะดวก, โครงสร้างพื้นฐานพลเรือนที่สำคัญ
นอกจากนี้ยังสามารถโจมตีเป้าหมายที่มีความแข็งแกร่งอย่างเช่น บังเกอร์ หรือ ที่กำบังอากาศยาน
Information by https://en.wikipedia.org/wiki/9K720_Iskander
Picture by
- wikipedia.org (1, 3, 4)
- amp.businessinsider.com (2)
- cdn2.img.af.sputniknews.com (5)
- nationalinterest.org (6)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น